“แชร์ประสบการณ์ แอบขึ้นรถไฟ Yufuin No Mori” พฤติกรรมที่น่าละอายของนักท่องเที่ยวไทยในญี่ปุ่น!!

วันนี้ Zcooby มีเรื่องที่ไม่ค่อยสบายใจ เมื่อได้อ่านกระทู้หนึ่งในเว็บ Pantip ที่ใช้ชื่อว่า “แชร์ประสบการณ์ แอบขึ้นรถไฟ Yufuin No Mori” โดยเป็นกระทู้หนึ่งจากห้องบลูแพลเน็ต ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับการพูดคุยแบ่งปันเรื่องการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ จุดมุ่งหมายของการแชร์ครั้งนี้ก็คือ ไม่ต้องการให้นักท่องเที่ยวไทยนำพฤติกรรมที่ไม่ดีเหล่านี้ไปใช้ในทางที่ไม่ชอบ

หมายเหตุ ทาง Zcooby ขออนุญาตไม่เปิดเผยชื่อบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้นะครับ เพียงแค่อยากให้เราไม่เผลอไปทำอะไรแบบนี้ในต่างประเทศครับ

สำหรับกระทู้เรื่อง “แชร์ประสบการณ์ แอบขึ้นรถไฟ Yufuin No Mori” เป็นการเล่าประสบการณ์การ”แอบ”ขึ้นรถไฟขบวนพิเศษ Yufuin No Mori ซึ่งวิ่งระหว่างเมืองฟุกุโอกะกับเมืองยุฟุอิน บนเกาะคิวชู ซึ่งรถไฟขบวนนี้ผู้โดยสารจะต้องมีการจองที่นั่งทุกที่นั่ง เนื่องจากมีจำนวนจำกัด ทำให้รถไฟขบวนนี้เต็มเร็วมา เราลองไปดูเรื่องนี้กันนนะครับ

“แชร์ประสบการณ์ แอบขึ้นรถไฟ Yufuin No Mori”

วันที่ 2 มกราคม 2557

ท่ามกลางหิมะตก และลมแรง
เสื้อผ้าที่เตรียมมาสำหรับอุณหภูมิ 10กว่าองศาไม่สามารถต้านทานความหนาวได้อีกต่อไป
รองเท้าผ้าใบและถุงเท้าที่เปียกโชกของฉัน พลอยทำให้เท้าฉันชาขนาดที่ถุงร้อนแปะเท้าก็ช่วยไม่ได้
แม่ ฉัน และน้องชายกำลังเดินไปตามถนนใหญ่ สวนกับรถที่วิ่งไปมา
เพื่อตามหาพ่อที่พลัดหลงกันหน้า Lawson
ป่าป๊า!! ป่าป๊า!!!

หลังจากที่เดินหากันอยู่นาน สุดท้ายเราก็เจอพ่อจนได้
พ่อตะโกนเรียกพวกเราพร้อมโบกมือให้จากบริเวณถนนคนเดิน
พวกเรารวมตัวกันแล้วรีบแวะหาร้านหลบหนาว
ฉันและน้องโดนเอ็ดที่ไม่ดูพ่อให้ดี
แต่ก็นั่นแหละ เค้กสักก้อนสองก้อนก็ทำให้ทุกคนอารมณ์ดีขึ้นได้

หันไปดูเวลา เอาแล้ว
เราพลาดรถไฟ Yufu 4ที่จะเดินทางกลับไป Fukuoka ตอน 14.13 และ 14.16
รอบต่อไปมี YuFu No Moriตอน 15.48
แต่ถึงเราจะมีบัตร JR Pass ก็ตามที YuFu No Mori ก็เป็นรถไฟที่ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้นถึงจะขึ้นได้
หลายวันก่อนที่ฉันไปจอง มันก็เต็มหมดแล้ว…

ขบวนถัดไปที่ขึ้นได้โดยไม่ต้องจองคือ YuFu 6 ตอน 18.43
อีกราว 3 ชั่วโมงกว่าถึงจะได้ขึ้นรถไฟ…

พวกเราเดินทางไปที่ชานชาลาเพื่อถามความเป็นไปได้ที่จะขอเกาะ YuFu No Mori กลับไป Fukuoka
แต่เจ้าหน้าที่ก็ยืนกราน นอนกรานว่าเราขึ้นไม่ได้ถ้าไม่ได้จองไว้ล่วงหน้า
หลังจากเดินคอตกออกมาจากเจ้าหน้าที่ JR
ฉันก็เดินไปถาม Tourist Information เผื่อจะมีทางอื่นที่จะไป Fukuoka โดยที่ไม่ต้องรอถึง 3 ขั่วโมงกว่า!
เจ้าหน้าที่ยิ้มรับแล้วบอกฉันว่ามีรถบัสที่เดินทางจาก YuFuin ไป Fukuoka ด้วย
แต่ต้องเดินไปถามเอง ที่ตึกข้างหน้านั้น
ด้วยความตื่นเต้น พวกเรารีบเดินออกไปถามราคาและตารางรถบัส
ในอาคารมีคนญี่ปุ่นอยู่เต็มไปหมด พวกนักท่องเที่ยวคงเดินทางด้วย JR Pass กันอยู่แล้ว มีแต่คนพื้นถิ่นที่จะใช้รถบัส
หลังจากยืนคิวสักพักก็ถึงตาพวกเรา หลังจากถามราคาและเวลาโดยสารแล้วปรากฎว่า
ตั๋วรถบัสราคาแพงมาก!!! และใช้เวลาเดินทางนาน ขนาดที่ไปถึงพร้อมกับรถไฟขบวน YuFu 6 เลยทีเดียว!
(ที่ว่าราคาแพง คือจำราคาเป๊ะไม่ได้ แต่ณ ตอนนั้น คิดราคากับค่า JR Pass ที่จ่ายไปแล้ว ยังไงก็ไม่คุ้ม)
พวกเราสุมหัวคุยกันว่าจะเอายังไงดี
แม่กลัวการนั่งรถบัสในวันที่หิมะตก
พวกเราเห็นด้วยว่ามันดูน่ากลัวกว่าขึ้นรถไฟจริงๆ
ฉันมองดูนาฬิกาอีกครั้ง อีกเกือบครึ่งชั่วโมง Yufuin No Mori ก็จะมาเทียบท่า
และอีก3ชั่วโมงกว่า YuFu 6 จะมา

เอาวะ! ด้านได้อายอด
เรามาแอบขึ้นรถไฟกันเถอะ!!!

การแอบขึ้นรถไฟครั้งนี้ต้องทำกันอย่างแนบเนียนที่สุด
พ่อกับน้องรับหน้าที่ไปเข็นกระเป๋าสำภาระขนาดใหญ่ 2 ใบจากล็อกเกอร์ฝากกระเป๋า
ฉันกับแม่ยืนดูลาดเลาบริเวณสถานีรถไฟ
ฉันถอดรองเท้าและถุงเท้าที่เปียกชุ่มออกแล้วนั่งลงบนขอบหน้าต่างของห้องรับรองเพื่อลาดตระเวน

มีพนักงานตรวจตั๋ว 2 คนยืนอยู่หน้าประตูทางเข้าชานชาลา
ชานชาลาด้านหน้าจะเดินทางไปเมือง Fukuoka ในขณะที่ชานชาลาหลังเดินทางไปเมือง Oita
มีคนหลายคนเดินผ่านพนักงานตรวจเพื่อไปขึ้นขบวนที่ว่า
หลายคนเดินเข้า หลายคนเดินออกจากชานชาลา
พนักงานตรวจตั๋ว ตรวจดูแต่คนที่เดินออกเท่านั้น
???

เหลือเวลาอีก 15 นาทีก่อนรถไฟ YuFu No Mori จะมา
จังหวะที่ผู้คนพรั่งพรูออกจากรถไฟและเดินเข้ามาที่สถานี
เจ้าหน้าที่กำลังตรวจตั๋วคนออกอย่างขะมักเขม้น ส่วนคนเดินเข้าก็เดินเข้าไปลอยๆ
ฉันกับแม่ออกไปก่อน หลังจากนั้นสักพักน้องชายและพ่อก็เข็นกระเป๋าออกมาแล้วไปวางไว้ตรงมุมอับของชานชาลา
ฉัน พ่อ และน้องทำเนียนไปยืนแอบบริเวณสะพานข้ามระหว่างชานชาลา

เวลาคนเดินผ่านก็ทำทีเป็นถ่ายรูปรถไฟ ไม่เดินข้ามออกจากชานชาลาเสียที

ท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บ เท้าของฉันชาไปหมด
มันทำให้การรอคอยรถไฟเพียง 10 นาที นานราวไม่มีที่สิ้นสุด

เมื่อรถไฟ YuFuin No Mori มาถึง
พวกเราก็ไปต่อแถวรอขึ้น
อา….อากาศอันอบอุ่นข้างในขบวนรถไฟ
พวกเราวางแผนกันว่า ถ้าเข้าไปได้ให้ต่างคนต่างไปหาที่ว่างยืนในขบวนรถไฟ
ถ้าโดนจับได้ ให้บอกว่ารอเพื่อนอยู่ ถ้าเขาหาเจอไม่ครบทุกคนก็อย่าลง

เผื่อเขาเตะลงกลางทาง เราจะได้ไม่คลาดกัน

ฉันกับแม่เดินไปยืนที่ขบวนอาหาร
โบกี้ถัดไปคือขบวนนั่งกิน ยืนกินอาหารพร้อมกระจกให้ชมวิวนอกขบวนรถไฟ
มีคนนั่งอยู่ก่อนแล้วเต็มบริเวณให้นั่ง ฉันกับแม่จึงยืนอยู่ที่โต๊ะยืน
พนักงานตรวจตั๋วเดินผ่านเราไปโดยไม่ได้ขอตรวจอะไร

ความหิวและความรู้สึกผิดที่แอบขึ้นรถไฟทำให้ฉันสั่งเบนโตะจากตู้อาหารมากินด้วย

หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง
ผู้โดยสารนั่งประจำที่กันหมดแล้ว เหลือที่นั่ง 2 ที่ด้านหลังสุดที่ดูไม่มีเจ้าของ
บางทีอาจจะจองไว้แต่ตกรถไฟก็เป็นได้
ฉันกับแม่จังไปนั่งเล่น
นั่งเพลินๆไปเป็นชั่วโมงก็มีพนักงานตรวจตั๋วเดินมาอีกรอบ
พวกเราทำเนียนเอาบัตร JR Passให้ดู แต่เจ้าหน้าที่ขอดูบัตรจอง
พนักงานถามว่าไม่มีตั๋วใช่ไหม? ไม่มีก็ให้ไปนั่งที่ตู้อาหาร
แต่ไม่ให้นั่งที่เก้าอี้เพราะเป็นสิทธิของคนที่จองล่วงหน้าเท่านั้น

หลังโดนไล่ให้มานั่งที่ตู้อาหาร คราวนี้พวกเราก็สังเกตได้ว่า
ทุกคนที่นั่งอยู่ก็คือคนเดิมที่นั่งมาตั้งแต่ขบวนออกมาจาก YuFuin
พอตามหาพ่อกับน้อง ก็พบว่านั่งอยู่ตรงเก้าอี้ไม้ริมทางเดินใกล้ที่วางสำภาระ (ไม่ใช่เก้าอี้โดยสาร)
พอโดนตรวจตั๋วน้องก็ยื่น JR Pass ให้ดูเจ้าหน้าที่ก็ไม่ว่าอะไร

กระจ่างเลยจ้า!
ไม่มีบัตรขึ้นขบวนได้ แต่ไม่ให้นั่งเก้าอี้โดยสารจ้า
คิดว่าที่เจ้าหน้าที่ JR บอกว่าไม่ได้จองขึ้น Yufuin No Mori ไม่ได้
เพราะกลัวว่าคนไม่ได้จองจะขึ้นไปเยอะเกินแล้วเบียดเบียนหรือไปขโมยเก้าอี้คนจองล่ะมั้ง

เห้อ รู้แบบนี้ค่อยขึ้นรถไฟแบบสบายใจหน่อย
แล้วฉันจะวางแผนการแอบขึ้นรถไฟทำไมเนี่ย
ห้าห้าห้า

ป.ล.
แต่ถ้าไม่จำเป็นจริงๆก็ขึ้นขบวนที่ไม่ต้องจอง หรือจองล่วงหน้ามากๆก่อนขึ้น Yufuin No Mori เถอะ
เพื่อความสบายใจในการเดินทาง กับเก้าอี้นุ่มๆสบายๆด้วย
ป.ล.2
ถึงพยากรณ์อากาศจะบอกว่าหิมะไม่ตก แต่ไปช่วงปีใหม่ก็อย่าได้ชะล่าใจ
ควรใส่รองเท้ากันน้ำไป ไม่งั้นเย็นจนเท้าชา ฮ่องกงฟุตจะมานะเออ
ป.ล.3
ฉันเพิ่งตั้งเพจเฟซชุคขึ้นมาเพื่อเก็บเรื่องราวของความคิดและความทรงจำต่างๆ
ยีงมีอีกหลายๆเรื่องในการเดินทาง และความคิดที่กำลังทยอยๆเขียนอยู่
ถ้าชอบก็เข้าไปกดไลค์กันได้นะ
https://www.facebook.com/XXXXXXXXXXX

 

ที่มา http://pantip.com/topic/33232181

***************************************

หลังจากที่เจ้าของกระทู้ได้ทำการโพสท์กระทู้นี้ ความคิดเห็นของคนส่วนมากเป็นไปในทางที่ไม่ดี โดยออกเป็นเชิงตำหนิเจ้าของกระทู้และครอบครัว ที่มีพฤติกรรมที่น่าอาย แต่กลับมองว่าเป็นเรื่องปกติและสามารถจะกระทำได้ โดยมองว่าตนเองและครอบครัวมีความจำเป็นที่จะต้องขึ้นขบวนนี้

ซึ่งภายหลังทางเจ้าของกระทู้ก็ได้มาแสดงความเห็นในเชิงขอโทษแล้วครับ แต่อย่างไรก็ดี ทางZcooby หวังว่า นักท่องเที่ยวชาวไทยจะไม่นำพฤติกรรมแบบนี้ไปใช้เมื่อไปเที่ยวญี่ปุ่นกันนะครับ

 

 

Be the first to comment

Leave a comment

Your email address will not be published.


*


This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.