วัคซีนคืออะไร? ผลของการไม่ฉีดวัคซีนมีอะไรบ้าง? (ลัทธิต่อต้านวัคซีน)

หลังจากที่มีกระแส “ลัทธิต่อต้าน(การฉีด)วัคซีน” เริ่มเข้ามาในเมืองไทย โดยมีการให้ข้อมูลผิด ๆ ว่า ฉีดวัคซีนทำให้เป็นโรค ไม่ฉีดก็ไม่ป่วย ทำให้คนบางกลุ่มไม่ยอมพาลูกไปฉีดวัคซีน ซึ่งวันนี้ Zcooby ได้นำข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของวัคซีน และผลของการไม่ฉีดวัคซีนอะไรบ้างครับ

วัคซีนคืออะไร?

วัคซีนคือ การเอาเชื้อโรคมาทำให้อ่อนฤทธิ์จนไม่ก่อโรค หรือเอาส่วนประกอบของเชื้อมาทำให้วัคซีน เพื่อให้ร่างกายจดจำเชื้อและสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมา เมื่อร่างกายมีภูมิคุ้มกันแล้ว เมื่อเจอโรคจริง ๆ ก็จะไม่ป่วย หรือหากป่วยก็มีอาการไม่รุนแรง ซึ่งการฉีดวัคซีนไม่ได้ฉีดแล้วทำให้เกิดเป็นโรคตามที่เชื่อแต่อย่างใด

แนวความคิดเรื่อง ลัทธิต่อต้านวัคซีน

จุดเริ่มต้นเกิดมาจากต่างประเทศ ที่บางครอบครัวเห็นว่า การไม่พาลูกไปฉีดวัคซีนก็ไม่ป่วย บางส่วนก็มีความเชื่อว่า ฉีดแล้วทำให้เกิดเป็นโรคตามที่เชื่อ

ประกอบกับมีการแพร่แนวคิดไม่ฉีดวัคซีนกันในเฟซบุ๊ก ซึ่งแปลมาจากข้อมูลของแพทย์เพี้ยน ๆ ในสหรัฐอเมริกาที่ต่อต้านการให้วัคซีน ซึ่งคนส่วนหนึ่งก็พร้อมที่จะเชื่อโดยที่ไม่ไตร่ตรอง

ผลของการไม่ฉีดวัคซีนมีอะไรบ้าง?

  • ผลการของไม่ฉีดวัคซีนกันมากๆ อาจจะส่งผลให้โรคระบาดที่เคยควบคุมไปได้แล้วก็จะกลับมา ทั้งฝีดาษ คอตีบ ไอกรน โปลิโอ
  • เด็กอาจจะได้รับผลกระทบจนเสียชีวิตจากการที่เด็กคนอื่นไม่ฉีดวัคซีนได้ เคยมีกรณีเกิดขึ้นแล้วในชุมชนแห่งหนึ่งของสหรัฐอเมริกาเมื่อมีโรคระบาดเกิดขึ้น โดยครอบครัวที่ไม่ยอมพาลูกไปฉีดวัคซีนนั้น แม้ลูกจะติดโรคแต่เนื่องจากเป็นเด็กโต อาการจึงไม่รุนแรง แต่กลับเอาโรคมาติดเด็กเล็กอีกครอบครัวหนึ่ง ซึ่งพ่อแม่มีความตั้งใจจะพาลูกไปฉีดวัคซีน แต่อายุของลูกยังไม่ถึงเกณฑ์จึงยังไม่ได้ฉีด ทำให้เด็กเล็กป่วยหนักและเสียชีวิตในที่สุด”

กรณีศึกษาในต่างประเทศ เด็กเสียชีวิตจากการไม่ฉีดวัคซีนของเด็กคนอื่น

จากเพจ ความรู้สนุกๆแบบหมอแมว

วัคซีน

เมื่อเด็กน้อย ต้องเสี่ยงชีวิตจากโรคหัด จากผู้ที่ไม่ฉีดแต่ป่วยไปพบแพทย์

เช้าวันคริสต์มาสปี 2012 Olivia White วัย 5 ขวบ อาเจียน
แต่เมื่อดูอาการแล้วไม่มีอะไรมาก พ่อและแม่ของเธอก็ปลอบและก็ฉลองคริสต์มาสตามปกติ เด็กสาวติดพ่อแจ กินข้าวด้วยกัน เล่นด้วยกัน ดูการ์ตูนด้วยกัน และก็เข้านอนตามปกติ

เช้าวันถัดมาเมื่อพ่อแม่ไปปลุก ก็พบว่าเธอเสียชีวิตแล้ว แพทย์ที่ชันสูตรบอกว่าเธอติดเชื้อในกระแสเลือด

และนั่นคือฝันร้ายครั้งแรกของครอบครัวนี้
ผ่านไป 3 ปี
เช้าวันที่ 9 กุมภาพันธ์ Jennifer White ได้รับโทรศัพท์จากคลินิกเด็ก
หนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านั้น เธอพา Griffin ลูกชายคนเล็กวัย 15 วัน ไปตรวจสุขภาพหลังคลอดตามนัด
ผลการตรวจของลูกชายเธอไม่มีอะไร
สิ่งที่มีก็คือ ก่อนหน้านั้น มีเด็กคนหนึ่งไม่สบายมารอตรวจ
ผลการตรวจออกมา พบว่าเด็กคนนั้นป่วยเป็นหัด …

เหมือนฟ้าผ่าลงมากลางใจ

โรคหัด เป็นโรคติดเชื้อที่แพร่กระจายผ่านทางการหายใจ เป็นโรคที่ติดง่ายกว่าไข้หวัดใหญ่หลายเท่า
และเมื่อเป็นแล้ว บางรายจะเสียชีวิต บางรายอาจพิการ
เป็นหนึ่งในมัจจุราชที่คร่าชีวิตเด็กในสมัยก่อน

ซึ่งสำหรับ Jennifer ซึ่งเสียลูกสาวคนโตไปไม่กี่ปีก่อนนั้น … สิ่งนี้เป็นฝันร้ายอีกครั้งของเธอ

หมอคุยกับJenniferต่อ ขอให้เธอและลูกชายอยู่แต่ในบริเวณบ้านอย่าไปไหนเป็นเวลา 21 วัน และขออย่าให้ไปคลุกคลีกับเด็กเล็กคนอื่น เพราะหากลูกชายของเธอติดเชื้อ อาจจะเกิดการแพร่ไปที่เด็กอื่นที่ยังไม่ได้รับวัคซีนหรือได้รับไม่ครบ

สำหรับการกักอยู่แต่ในบริเวณบ้าน ไม่ใช่ปัญหาของ Jennifer เพราะเธอทำงานที่บ้านอยู่แล้ว
ปัญหาคือ ลูกสาวคนกลางของเธอ … Aurelia ซึ่งได้รับวัคซีนป้องกันหัดแล้ว แต่ยังได้รับไม่ครบเพราะอายุยังไม่ถึงเกณฑ์ ก็มีความเสี่ยงที่จะติดโรคนี้ได้เช่นกัน

ความรู้สึกของคนเป็นแม่ ที่เสียลูกคนแรกไปอย่างกระทันหันเมื่อหลายปีก่อน และตอนนี้ลูกอีก 2 คนที่เหลือ ต้องมาเสี่ยงตายอย่างไม่รู้อนาคต มันเกินจะทานทน

************************

หัด เป็นโรคที่อันตราย
การป้องกันหัด ทำได้โดยการฉีดวัคซีน
แต่จะมีคนบางกลุ่มที่ยังฉีดไม่ได้ เช่นเด็กทารก
เด็กกลุ่มนี้คือกลุ่มเสี่ยง
ดังนั้น จึงมักแนะนำว่าเด็กเล็กไม่ควรไปในที่ชุมชน เพราะว่าอาจจะเสี่ยงติดเชื้อบางชนิดก่อนที่จะได้การปกป้องจากวัคซีน

และเนื่องจากหัดเป็นโรคที่พบในมนุษย์สู่มนุษย์ เด็กกลุ่มนี้จะได้รับการปกป้องจากชุมชนจากคนที่ฉีดวัคซีนแล้ว
เมื่อใดที่มีคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนมากพอ คนกลุ่มนั้นก็จะติดเชื้อและเป็นผู้กระจายเชื้อไปยังคนอื่นได้ ทำให้คนที่ไม่สามารถฉีดวัคซีนได้จริงๆหรือคน 5% ที่ฉีดแล้วภูมิไม่ขึ้น มีโอกาสป่วยตายมากขึ้นโดยไม่จำเป็น
โดยเฉพาะหากเด็กที่ไม่ฉีดวัคซีนแต่ไปติดเชื้อมา จากนั้นป่วย มีอาการเหมือนหวัด และไปหาหมอเด็ก ก็จะทำให้เด็กคนอื่นๆเสี่ยงชีวิตไปด้วย

*************************

หลังจากผ่านไป 21 วัน Jenniferและสามี อาการปกติ
Griffin ก็อาการปกติ
Aurelia ก็อาการปกติ
เธอโพสท์เรื่องราวของเธอลงในfacebook และได้รับเสียงตอบรับจากหลายฝ่าย ทั้งคนทั่วไป และพ่อแม่ที่ไม่ให้ลูกฉีดวัคซีน จนเป็นกระแสดังไปทั่ว

นักข่าวได้ไปสัมภาษณ์ถามความรู้สึกของเธอและสิ่งแรกที่เธออยากจะถามกับพ่อแม่ที่ไม่ให้ลูกฉีดวัคซีน แล้วพาลูกไปคลินิกจนทำให้เธอและลูกๆต้องถูกกักบริเวณ

สิ่งที่Jenniferอยากถามเป็นคำถามแรกก็คือ
“ลูกของพวกเขาสบายดีแล้วหรือยัง “

 

Be the first to comment

Leave a comment

Your email address will not be published.


*


This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.