บังยี คือใคร? พร้อมประวัติและผลงานของ บังยี วรวีร์ มะกูดี

“บังยี” คงเป็นชื่อที่หลายคนอาจจะได้ยินกันบ่อยในช่วงนี้ จากข่าวที่ทางฟีฟ่า สั่งบังยีห้ามยุ่งบอลไทย-เทศ เป็นเวลา 90 วัน หากคนที่ไม่ได้สนใจแวดวงกีฬาฟุตบอล อาจจะไม่รู้จักว่าเขาคือใคร วันนี้ Zcooby ขอแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับบังยี พร้อมประวัติและผลงานที่น่าสนใจของบุคคลท่านนี้ครับ

บังยี คือใคร

บังยี คือใคร?

บังยี หรือ วรวีร์ มะกูดี เป็นนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ คนที่ 15 โดยเป็นชาวไทยมุสลิมคนแรก โดยดำรงตำแหน่งต่อเนื่องเป็นวาระที่ 4  และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย

ชื่อของบังยีเป็นที่รู้จักมากขึ้น จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2558 คณะกรรมการควบคุมวินัยและจริยธรรมของสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ (ฟีฟ่า) ได้มีการลงโทษนายวรวีร์ เนื่องจากคดีทุจริตภายในองค์กร โดยห้ามยุ่งเกี่ยวกับฟุตบอลทั้งในประเทศและต่างประเทศชั่วคราวเป็นระยะเวลา 90 วัน

ประวัติบังยี

วรวีร์ มะกูดี หรือ “บังยี” เกิดเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494 (ปัจจุบันอายุ 63 ปี) ในด้านการศึกษา จบการศึกษาชั้นมัธยม จากโรงเรียนอำนวยศิลป์ และเริ่มสนใจการแข่งขันฟุตบอล โดยตั้งแต่เมื่อครั้งยังเป็นนักเรียน ได้รับคัดเลือกเข้าสู่ทีมของโรงเรียน รวมถึงผ่านการคัดเลือก เป็นนักฟุตบอลของสโมสรมุสลิม ตั้งแต่ชุดเยาวชนจนถึงชุดใหญ่ และลงแข่งขันฟุตบอลถ้วยพระราชทานประเภท ง และ ค ตามลำดับ ต่อมาย้ายสังกัดไปยังสโมสรฟุตบอลธนาคารกรุงเทพ และได้เลื่อนชั้นขึ้นไปแข่งในฟุตบอลถ้วยพระราชทานประเภท ข และ ก ตามลำดับ

จากนั้นเดินทางไปศึกษาต่อ ที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติคูเวต โดยทุนของรัฐบาลคูเวต และได้รับคัดเลือกเข้าร่วมทีมฟุตบอลของมหาวิทยาลัย จนกระทั่งจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี จึงเลิกเล่นฟุตบอล

ในด้านชีวิตครอบครัว นายวรวีร์สมรสกับสุมิตรา (นามสกุลเดิม: มาเรียม) เมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2526 มีบุตรชายด้วยกัน 2 คนคือ สุรวุฒิ (ป้อง) และ ศศินทร์ (ปอม)

ผลงานของบังยีในด้านต่างๆ

วงการฟุตบอล

วรวีร์กลับมาในวงการฟุตบอลอีกครั้ง ด้วยไปเป็นผู้จัดการสโมสรฟุตบอลตำรวจดับเพลิง ในระดับถ้วยพระราชทานประเภท ข ประมาณ 2 ปี ก่อนจะทำการก่อตั้ง รวมถึงเป็นผู้จัดการสโมสรฟุตบอลโรงเรียนหนองจอกพิทยานุสรณ์ (เริ่มเมื่อปี พ.ศ. 2532) และสโมสรฟุตบอลโรงเรียนศาสนวิทยา (เริ่มเมื่อปี พ.ศ. 2535) จนกระทั่งเลื่อนชั้นขึ้นไปแข่งในฟุตบอลถ้วยพระราชทานประเภท ก

ในสมัยที่ พลตำรวจโท ชลอ เกิดเทศ เป็นนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มีการติดต่อทาบทามวรวีร์ ให้เข้ามาเป็นรองเลขาธิการสมาคมฯ เป็นตำแหน่งแรก เพื่อช่วยเหลืองานกับวิจิตร เกตุแก้ว เลขาธิการสมาคมฯ ในชุดนั้น หลังจาก พลตำรวจโท ชลอ พ้นจากตำแหน่งนายกสมาคมฯ เมื่อปี พ.ศ. 2538 วิจิตรก็ขึ้นดำรงตำแหน่งแทน พร้อมกันนั้น วรวีร์ก็เลื่อนขึ้นเป็นเลขาธิการสมาคมฯ โดยอยู่ในตำแหน่งดังกล่าว เป็นเวลา 12 ปี ก่อนที่วิจิตรจะลาออกเมื่อปี พ.ศ. 2550 และจากนั้น สภากรรมการสมาคมฟุตบอลฯ ลงมติเลือกวรวีร์ ให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฯ เป็นคนที่ 15 และต่อเนื่องเป็นวาระที่ 3 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 จนถึงปัจจุบัน

สำหรับการดำรงตำแหน่งระดับนานาชาตินั้น วรวีร์เป็นสมาชิกผู้บริหาร (Executive member) ของสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ (FIFA) และกรรมการบริหารชาติสมาชิก (Executive committee member) ของสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (AFC) โดยตำแหน่ง โดยทั้งสองนั้น เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 จนถึงปัจจุบัน[6] ต่อมาในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2556 วรวีร์ลงสมัครรับเลือกตั้ง เป็นประธานสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) โดยมีการประชุมสมาชิกของสมาพันธ์ เพื่อลงคะแนนเลือกตั้งที่ประเทศมาเลเซีย แต่ผลการเลือกตั้งปรากฏว่า เชค ซัลมาน บิน อิบราฮิม อัล-คอลิฟะห์ จากประเทศบาห์เรนชนะ ซึ่งมีกระแสข่าวว่า เชค อะห์หมัด อัล-ฟาฮัด อัล-อะห์เหม็ด อัล-ซาบะห์ ประธานสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย ให้การสนับสนุน ได้รับคะแนนเสียงสูงสุด จึงเข้าเป็นประธานเอเอฟซีดังกล่าว

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2558 คณะกรรมการควบคุมวินัยและจริยธรรมของสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ ได้มีการลงโทษนายวรวีร์ เนื่องจากคดีทุจริตภายในองค์กร โดยห้ามยุ่งเกี่ยวกับฟุตบอลทั้งในประเทศและต่างประเทศชั่วคราวเป็นระยะเวลา 90 วัน [10]

ประวัติการทำงาน

พ.ศ. 2543 – ผู้แทนสันถวไมตรีด้านกีฬาของประเทศไทย จากกระทรวงการต่างประเทศ
พ.ศ. 2545 –ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย
พ.ศ. 2551 – ได้รับเลือกเป็น 1 ใน 13 บุคคลกีฬาแห่งปี ในวันที่ 4 พฤศจิกายน ลาออกจากตำแหน่งคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย และวันที่ 7 ธันวาคม รับตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย
พ.ศ. 2552 – สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย เลือก นายวรวีร์ มะกูดี เป็น 1 ใน 10 บุคคลกีฬาที่น่าสนใจ ประจำปี 2551 พร้อมตั้งฉายา “นักรบสิบทิศ”
พ.ศ. 2553 – สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย เลือก นายวรวีร์ มะกูดี เป็น 1 ใน 10 บุคคลกีฬาที่น่าสนใจ ประจำปี 2552 พร้อมตั้งฉายา “9 ที่พลาด” และในวันที่ 14 กันยายน ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย
พ.ศ. 2554 – สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย เลือก นายวรวีร์ มะกูดี เป็น 1 ใน 10 บุคคลกีฬาที่น่าสนใจ ประจำปี 2553 พร้อมตั้งฉายา “ฟีฟ่าฝ่ามรสุม”
พ.ศ. 2555 – สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย เลือก นายวรวีร์ มะกูดี เป็น 1 ใน 10 บุคคลกีฬาที่น่าสนใจ ประจำปี 2554 พร้อมตั้งฉายา “ยีเอาอยู่”
พ.ศ. 2556 –  สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย เลือก นายวรวีร์ มะกูดี เป็น 1 ใน 10 บุคคลกีฬาที่น่าสนใจ ประจำปี 2555 พร้อมตั้งฉายา “อะไรๆ ก็ยี”

งานด้านการเมือง

วรวีร์ มะกูดี เคยได้รับเลือกตั้งเป็น สมาชิกสภาเขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ได้คะแนน 3,358 เสียง เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2528 ก่อนจะเข้าทำงานการเมืองร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 และต่อมาย้ายสังกัดพรรคไทยรักไทย ในปี พ.ศ. 2547 ปัจจุบันสังกัดพรรคเพื่อไทย และได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการบริหารพรรค เมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2553 จากนั้น นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่งตั้งให้เป็นผู้แทนการค้าไทย ระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2554 ถึงวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Be the first to comment

Leave a comment

Your email address will not be published.


*


This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.