บิลลี่ แก่งกระจาน คือใคร? ประวัติและข่าวของ #บิลลี่ พอละจี รักจงเจริญ

ชื่อของ บิลลี่ ผู้หายสาบสูญไปใน อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กว่า 5 ปีแล้ว หลายคนอาจจะอยากทราบว่าเขาคือใคร?

บิลลี่ แก่งกระจาน คือใคร?

บิลลี่  – พอละจี รักจงเจริญ เป็น นักกิจกรรมกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงบ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

เขาเป็นนักปกป้องสิทธิด้านสิ่งแวดล้อมและสิทธิชุมชนชาวกะเหรี่ยง เขากำลังร่วมมือกับชาวบ้านคนอื่นและนักเคลื่อนไหวในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เพื่อเตรียมฟ้องคดีต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าวางเพลิงเผาบ้านเรือนและทรัพย์สินของชาวบ้านระหว่างปี 2553 และ 2554

เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2557 มีผู้พบเห็นว่า เขาถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดนข้อหานำน้ำผึ้งป่าออกจากป่า

โดย ณ ขณะนั้น บิลลี่อยู่กับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเป็นผู้สุดท้าย พร้อมกับรถเครื่องส่วนตัวสีเหลืองดำ พ.ร.บ.ขงพ.988 กับกระเป๋าเสื้อผ้าทั้งหมดหายไปอย่างไร้ร่องรอย เกิดเหตุที่ด่านมะเร็ว ปากทางเข้าหมู่บ้านโป่งลึก บางกลอย

และจากนั้นก็ไม่มีผู้พบเห็นเขาอีกเลย


ประวัติของ บิลลี่

ชื่อจริง : พอละจี รักจงเจริญ

ชื่อเล่น : บิลลี่

อาชีพ : นักปกป้องสิทธิด้านสิ่งแวดล้อมและสิทธิชุมชนชาวกะเหรี่ยง

ครอบครัว : มีภรรยาคือ พิณนภา พฤกษาพรรณ มีลูกทั้งหมด 5 คน

ข่าวของ บิลลี่ พอละจี รักจงเจริญ

  • ล่าสุดเมื่อช่วงเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา DSI พบหลักฐานสำคัญจนนำไปสู่การค้นหาหลักฐานบริเวณใกล้สะพานแขวน ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวชื่อดังในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
  • หลักฐานที่พบประกอบด้วย ถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร โดยในถังมีขิ้นส่วนกระดูกมนุษย์ รวมถึงหลักฐานอื่นๆในถังที่ถูกนำไปทิ้งไว้ในน้ำใกล้กับสะพานแขวน ซึ่งเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนของดีเอสไอ คาดว่าจะเป็นของบิลลี่
  • ในวันที่ 3 กันยายน 2562 เวลา 13.00 น. จะมีการแถลงคดีจากทาง DSI ว่ามีรายงานพบหลักฐาน บิลลี่ เสียชีวิต จากการฆาตกรรมในป่าแก่งกระจาน

การแถลงคดีบิลลี่จากทาง DSI

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 3 ก.ย. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ท. วรรณพงษ์ คชรักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พ.ต.ท. กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ท. เชน กาญจนาปัจจ์ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค พ.ต.ท.เสฏฐ์สถิตย์ สุวรรณกูด รองผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วรวีย์ ไวยวุฒิ ผู้อำนวยการกองสารพันธุกรรม สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ดร.สว่างทิตย์ ศรีกิจสุวรรณ หัวหน้าศูนย์วิจัยเฉพาะทางวิศวกรรมอวกาศและทะเล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และพ.ต.ต. นิรุท อินธิศร ผู้บังคับกองร้อย กองกำกับการ 3 กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ร่วมกันแถลงความคืบหน้า การหายตัวไปของ นายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ หนุ่มกะเหรี่ยง ที่ต่อสู้เรียกร้องเรื่องสิทธิที่ดินทำกิน และสิทธิที่อยู่อาศัย เพื่อบ้านเกิด แห่งแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ที่หายตัวไปอย่างลึกลับ เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ว่า

ตามที่คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 1/2561 เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2561 ให้การกระทำความผิดทางอาญาอื่นกรณีการหายตัวไปของนายบิลลี่ เป็นคดีพิเศษที่ต้องสืบสวนและสอบสวนตามพ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547

พฤติการณ์คือ นาย บิลลี่ ได้ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานจับกุมในระหว่างนำน้ำผึ้งออกจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อวันที่ 17 เม.ย.57 โดยเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมตัวอ้างว่าได้ปล่อยตัว นาย บิลลี่ พร้อมรถจักรยานยนต์และนำผึ้งของกลางไปโดยไม่ได้ดำเนินคดี แต่น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยาของนายบิลลี่ และญาติ เชื่อว่า นายบิลลี่ หายสาบสูญไปโดยถูกบังคับ

หลังการรับเรื่อง ดีเอสไอได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวน ได้แต่งตั้งพนักงานอัยการจากสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นที่ปรึกษาคดีพิเศษและ บูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน (Strong Collaboration) ประกอบไปด้วย สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และตัวแทนจากองค์การนอกภาครัฐ ร่วมกันสืบสวนสอบสวนต่อเนื่องมาโดยตลอด

จนเมื่อวันที่ 26 เม.ย.62 และเมื่อวันที่ 22-24 พ.ค.62 พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ใช้เครื่องยานยนต์สำรวจใต้น้ำจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และนักประดาน้ำ จากกองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ตรวจหาพยานหลักฐานที่พื้นที่ใต้น้ำบริเวณสะพานแขวน เขื่อนแก่งกระจาน สามารถตรวจพบชิ้นส่วนกระดูก 2 ชิ้น ถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร 1 ถัง เหล็กเส้น 2 เส้น ถ่านไม้ 4 ชิ้น และเศษฝาถังน้ำมัน จากนั้นส่งให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ทำการตรวจพิสูจน์พบว่า “วัตถุเป็นชิ้นส่วนกระดูกกะโหลกศีรษะข้างซ้ายของมนุษย์ มีรอยไหม้สีน้ำตาล ร่วมกับรอยแตกร้าว และการหดตัวของกระดูกจากการถูกความร้อนที่อุณหภูมิประมาณ 200-300 องศาเซลเซียส ตรวจดีเอ็นเอ ตรงกับนางโพเราะจี รักจงเจริญ มารดาของนายบิลลี่้ เมื่อพิจารณาจากสถานที่เกิดเหตุ พยานหลักฐานในสำนวนอื่นประกอบ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษจึงเชื่อว่า วัตถุดังกล่าวเป็นกระดูกของ “นายบิลลี่ ที่เสียชีวิตแล้วโดยไม่ทราบวิธีที่ทำให้ตาย แต่นำมาเผาทำลายเพื่ออำพรางคดี”

ส่วนถังน้ำมัน เหล็กเส้น ถ่านไม้ และเศษฝาถังน้ำมัน ได้ส่งศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ทำการตรวจพิสูจน์หาร่องรอยการผ่านความร้อนและการผุกร่อน ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 28 – 30 ส.ค.62 พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้ร่วมกับ นักประดาน้ำ จากกองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ตรวจหาพยานหลักฐานที่พื้นที่ใต้น้ำบริเวณสะพานแขวน เขื่อนแก่งกระจาน ตรวจหาพยานหลักฐาน พบชิ้นส่วนกระดูกเพิ่มเติมอีกจำนวน 20 ชิ้น ซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินการ

ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เห็นว่า พฤติการณ์ของกลุ่มคนร้ายที่กระทำผิดครั้งนี้เข้าข่ายลักษณะเป็นการฆาตกรรมโดยทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหายที่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงตามอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ ซึ่งหลังจากนี้ จะเร่งรัดสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มองค์กรที่กระทำความผิดโดยเร็ว

Be the first to comment

Leave a comment

Your email address will not be published.


*


This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.