สรุปข่าวกรณียิงคู่รักวัยรุ่นเสียชีวิตที่เขาชีจรรย์

หลังจากที่มีเหตุการณ์ คู่รักวัยรุ่น ถูกมือปืนดักยิงเสียชีวิตบริเวณที่จอดรถ เขาชีจรรย์ สัตหีบ หลังจากที่ทั้งคู่มาไหว้พระฉลองวันเกิดของฝ่ายหญิง ซึ่งเมื่อทำการสืบสวนไปก็พบว่า มีเรื่องที่ซับซ้อนกว่าที่คิด วันนี้ Zcooby ขอลำดับเหตุการเรื่องนี้ให้ทราบครับ

ข่าวเรื่องการยิงคู่รักวัยรุ่นเสียชีวิตที่เขาชีจรรย์

เมื่อเวลา 16.20 น. วันที่ 29 ก.ค. ร.ต.อ.หญิง รสิตา เณรพงษ์ รองสว. (สอบสวน) สภ.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุมี ผู้ถูกยิงเสียชีวิต 2 ศพ บริเวณลานจอดรถฝั่งตรงข้ามพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเขาชีจรรย์ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.อาทร ชิ้นทอง ผกก.สภ.นาจอมเทียน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานรุดไปยังที่เกิดเหตุ

พบศพนายอนันตชัย จริตรัมย์ อายุ 21 ปี ถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. เข้าที่ข้อมือซ้าย ขมับซ้าย เอวด้านขวา รวม 3 นัด และศพน.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ อายุ 20 ปี ถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาดเดียวกันเข้าที่แผ่นหลัง ท้ายทอย ขมับซ้าย และใต้ราวนมด้านขวา รวม 4 นัด เสียชีวิตคาที่ทั้งคู่ข้างรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอินโนวา สีขาว ทะเบียน ฎง 6941 กทม. และพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. 10 ปลอกในที่เกิดเหตุ

จากการสอบสวนนายนพดล บุญเสมอ อายุ 33 ปี คนขับรถให้การว่า เป็นพนักงานขับรถเช่าแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ก่อนเกิดเหตุรับผู้ตาย 2 คน และเพื่อนชายอีก 2 คน ทราบชื่อนายสายันต์ ศรีสุข อายุ 43 ปี และนายวราเทพ มาสูงเนิน อายุ 20 ปี จากโรงแรมย่านพัทยาใต้มาเที่ยวชมพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเขาชีจรรย์ ขณะที่ผู้ตาย 2 คน กลับมาขึ้นรถ ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด จึงหลบในรถ พอสิ้นเสียงปืนลงไปดูพบทั้งคู่ถูกยิงเสียชีวิต

ส่วนนายวราเทพ เพื่อนผู้ตายให้การว่า ผู้ตายทั้งคู่โทรศัพท์มาชวนให้ไปเที่ยวพัทยา และงานวันเกิดฝ่ายหญิง โดยนัดเจอกันที่กรุงเทพฯ วันที่ 27 ก.ค. ก่อนเดินทางมาพัทยา ช่วงเกิดเหตุผู้ตายทั้งคู่ขอกลับไปที่รถก่อน ตนและเพื่อนอีกคนแยกตัวไปซื้อของกิน ระหว่างนั้นได้ยินเสียงปืน รีบเดินมาดูพบทั้งคู่ถูกยิงเสียชีวิต ทั้ง 2 คนเป็นแฟนกันตั้งแต่สมัยเรียนชั้นมัธยมศึกษา ทราบว่าทั้งคู่เคยทำงานในสถานบันเทิงที่ จ.ภูเก็ต ก่อนย้ายมาทำงานที่ จ.นครปฐม กระทั่งชวนมาเที่ยวพัทยา และสัตหีบ จนกระทั่งถูกยิง

จากการสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุทราบเบาะแสคนร้ายขับรถเก๋งสีขาว ไม่ทราบทะเบียน มาจอดรอบริเวณที่เกิดเหตุ ก่อนคนนั่งข้างคนขับเปิดกระจกแล้วกระหน่ำยิง ก่อนขับหลบหนีไป โดยในเบื้องต้นตำรวจตั้งประเด็นเรื่องชู้สาว ฝ่ายหญิงเป็นพนักงานต้อนรับลูกค้าตามสถานบันเทิง ส่วนฝ่ายชายเป็นพนักงานเสิร์ฟตามสถานบันเทิงเช่นเดียวกัน ช่วงวันหยุดยาว 4 วัน ฝ่ายหญิงมาจัดงานวันเกิดที่พัทยา โดยมีแฟนหนุ่ม และเพื่อนมาด้วย จนกระทั่งมาถูกยิงเสียชีวิตทั้งคู่

******************************************

ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กรณียิงคู่รักวัยรุ่นเสียชีวิตที่เขาชีจรรย์

สำหรับตัวละครในเหตุการณ์นี้ มีทั้งหมด 5 คนด้วยกันคือ

1. นายอนันตชัย จริตรัมย์ อายุ 21 ปี (ชื่อเล่น ฟอส) (แฟนหนุ่มน้องสปาย : เสียชีวิต)
2. นางสาวปวีณา นาเมืองรักษ์ อายุ 20 ปี (ชื่อเล่น สปาย) (แฟนสาวน้องฟอส : เสียชีวิต)
3. นายวราเทพ มาสูงเนิน อายุ 20 ปี (เพื่อนสนิทน้องสปาย)
4. นายสายันต์ ศรีสุข อายุ 43 ปี (แฟนนายวราเทพ)
5. “เสี่ยอ้วน” หรือฉายา “อ้วน บางลา” (เจ้าของสถานบริการที่ น้องสปาย ทำงานอยู่ที่ภูเก็ต)

โศกนาฏกรรมเรื่องนี้ น่าจะมีจุดเริ่มต้นมาจากที่

น้องฟอส ฝ่ายชาย อายุ 21 ปี และน้องสปาย ฝ่ายหญิง อายุ 20 ปี เป็นคนจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นเพื่อนสนิท คบหาดูใจในฐานะแฟนมาตั้งแต่เด็ก

น้องสปายไปทำงานที่สถานบริการของ “เสี่ยอ้วน” หรือฉายา “อ้วน บางลา” ที่ภูเก็ต

น้องสปายหน้าตาดี เสี่ยอ้วนเกิดชอบพอ แต่ไม่รับรักเพราะมีแฟนอยู่แล้ว

มีพยานหลายคนเคยเห็นเสี่ยอ้วนชักปืนข่มขู่มาแล้วหลายครั้ง จนน้องฟอส และน้องสปาย พากันหนีมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่จังหวัดนครปฐม

จุดเริ่มต้นของการฆาตกรรมเริ่มจากที่ น้องสกายมีเพื่อนสนิทมีรสนิยมทางเพศแบบชายรักชายชื่อ “วราเทพ” อายุ 20 ปี

เสี่ยอ้วนรู้จุดอ่อนเรื่องความรักของชายรักชายจึงจ้างให้ “สายันต์” อายุ 43 ปี มาตีสนิทคบหากับ “วราเทพ” ไปไหนขอไปด้วยกัน

สายันต์รับเงินก้อนแรกมา 20,000 บาท บินตรงจากภูเก็ตมาร่วมทริปนี้โดยเฉพาะ

ในวันเกิดเหตุ น้องฟอส น้องสปาย วราเทพ และสายันต์ ทั้ง 4 คน ขึ้นรถไปเที่ยวไหว้พระ ถ่ายรูปตามสถานที่ต่างๆ ด้วยกัน เพราะเป็นวันเกิดของน้องสปาย

ระหว่างทางปรากฎว่า นายสายันต์แชร์ gps สถานที่ต่างๆ ให้กับ “เสี่ยอ้วน” ทุกระยะ และพิกัดสุดท้ายระหว่างเสียอ้วนนั้นห่างกันเพียง 5 กิโลเมตร

จนมาถึงเขาชีจรรย์ จากแผนเดิมที่เสี่ยอ้วนใช้เป็นแผนลวง คือ ฉุดอุ้มน้องสปาย กลายเป็นสังหารอย่างเหี้ยมโหด โดยปืนออโตเมติก 9 มม. ยิงฝ่ายหญิงจากทางด้านหลังไม่ทันตั้งตัว 4 นัด กระสุนตัดขั้วหัวใจ จ่อยิงฝ่ายชาย 2 นัด เข้าที่ขมับ เสียชีวิตทั้งสองคน

มือปืน “เสี่ยอ้วน” และ “ไอ้แจ็ค” หนีหายด้วยรถ CRV สีขาว ป้ายแดง ก-5195

ในเวลาเพียงข้ามคืนตำรวจรู้ตัวคนร้าย จากการแกะรอยหลักฐานในที่เกิดเหตุ และเมื่อช่วงเช้ามารับตัว “วราเทพ” และ “สายันต์” ไปเซฟเฮ้าส์ สอบเค้นจนได้คำสารภาพมาประกอบ ออกหมายจับมือปืนทั้ง 2 คน

โดยจากการสืบสวน สายันต์สารภาพ รับเงินจากเสี่ยอ้วน 20,000 บาท มาตีสนิทวราเทพ เพื่อให้ใกล้ชิดฝ่ายหญิงและส่งข้อมูลความเคลื่อนไหวต่างๆ ให้เสี่ยอ้วน ตัวเองโดนหลอกใช้ ไม่คิดว่า จะร้ายแรงถึงขั้นฆ่าให้ตาย

ซึ่งเรื่องนี้ไม่เคยบอกให้ “วราเทพ” มาก่อน ซึ่งคำรับสารภาพนี้ เชื่อมโยงกับข้อมูลในโทรศัพท์ที่ “สายันต์” มีการติดต่อสื่อสารกับ “เสี่ยอ้วน” ตลอดก่อนเกิดเหตุฆาตรกรรมโหด

ส่วนศพของ น้องฟอส และ น้องสปายนั้น พ่อแม่แทบขาดใจ รับศพลูกไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จังหวัดกาฬสินธุ์